เกริ่นนำก่อนซักนิด ก่อนจะเริ่มมหากาพย์ ภาค 3
... เอาละครับ มาต่อกันที่บทสรุปสุดท้ายของเซฟนี้กันครับ ต้องขออภัยถ้าหากผมมีรูปน้อย หรือบรรยายไม่ละเอียดนะครับ เนื่องจากเดิมทีผมไม่ได้ตั้งใจจะให้เซฟนี้มาอยู่ในบล็อกครับ แต่ที่ผมนำมาเซฟนี้มาลงเพราะว่าจะโชว์ผลงานของตัวเองซักเล็กน้อย ก่อนที่จะไปเริ่มไปเป้าหมายใหม่ครับ
เซฟนี้ผมตั้งเป้าหมายไว้เพียงแค่ 5-6 ข้อครับ
1.พาดาร์บี้เป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงระดับโลก
2.พาดาร์บี้เป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลก
3.พาดาร์บี้ครองเกาะอังกฤษ
4.ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้จัดทีมที่มีชื่อเสียงระดับโลก
5.ทำให้ตัวเองไปอยู่ในฮอลออฟเฟรมเป็นอันดับ 1 ของโลก
6.มีนักเตะเยาวชนที่ปั้นขึ้นมา เล่นกับทีมชุดใหญ่
ซึ่งเป้าหมายทุกข้อผมได้บรรลุหมดแล้ว จึงหมดความท้าทายกับการเล่นเซฟไปนี้ครับ เวลาในคือช่วงที่บรรลุเป้าหมายคือช่วงเปิดฤดูกาล 2019/2020 หมายความว่าผมใช้เวลาทั้งสิ้น 12 ฤดูกาล จึงบรรลุเป้าหมายหมดที่วางเอาไว้ครับ
มาที่เป้าหมายแรกครับ ผมทำสำเร็จเรียบร้อยคือดาร์บี้กลายเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วโลก สนามฟุตบอลของทีมได้รับการขยายเพื่อรองรับแฟนบอลที่เพิ่มมากขึ้น จากเดิมแค่ 30000 กว่าๆ ในปัจจุบัน ณ ปี 2019 สนามของทีมรองรับความจุได้ถึง 63053 ที่นั่ง มีอุปกรณ์การฝึกดีเยี่ยมและอุปกรณ์การฝึกด้านเยาวชนดีที่สุด
เป้าหมายที่สองผมทำให้ดาร์บี้กลายเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลกได้สำเร็จ ซึ่งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1600 ล้าน รายได้หลักๆมาจากการคว้าถ้วยแชมป์ทุกปี และ มาจากการปั้นนักเตะขายซึ่งทำกำไรให้กับสโมสรมากมาย จนรวยที่สุดในโลก ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างอาร์เซน่อลแบบไม่เห็นฝุ่น
เป้าหมายที่สามผมพาดาร์บี้ครองเกาะอังกฤษด้วยการพาทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่างพรีเมียร์ลีกติดต่อกันถึง 7 สมัย กวาดแชมป์บอลถ้วยภายในประเทศติดกัน 3 สมัย รวมถึงคว้าทุกแชมป์ในประเทศติดกัน 4 แชมป์ 2 ปีติดต่อกัน โดยมีคู่รักคู่แค้นอย่างอาร์เซน่อลเป็นคู่แข่งสำคัญ

เป้าหมายที่สี่และห้าจากผลงานที่สุดยอดใช้เวลาเพียง 12 ปี พาดาร์บี้ทีมอ่อนด๋อยแทบไม่มีใครรู้จักขึ้นมาผงาดในระดับโลกคว้าแชมป์มากมาย ทำให้ปัจจุบันผมในวัย 52 ปี กลายเป็นผู้จัดทีมเพียงคนเดียวในเกมส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและกลายเป็นผู้จัดการทีมอันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับฮอลออฟเฟรมผมแซงหน้า เซอร์ อล็ก เฟอร์กูสัน ผู้จัดทีมระดับตำนานของแมนยูได้เรียบร้อยครับ ด้วยผลงานคุมทีม 691นัด ชนะ473นัด เสมอ108นัด แพ้110นัด ยิงได้1821ประตู เสีย870ประตู

และเป้าหมายสุดท้ายครับอันนี้เป็นสไตล์การคุมทีมของผมอยู่แล้วด้วยครับ ชอบเซ็นนักเตะมาถูกๆแล้วขายไปแพงๆ หรือปั้นขึ้นมาจนเป็นตัวหลักสโมสร ในทีมของผมมีเด็กนรกเยอะครับ แต่ผมขอเลือกมา 4 คนละกันครับ ซึ่ง 4 นี้ผมปั้นมาเองกับมือ จนมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นกำลังหลักของสโมสรเรียบร้อยครับ มีแค่ตัวสุดท้ายเพียงตัวเดียวนะครับที่ซื้อจากสเปอร์ ด้วยค่าตัว 3 ล้าน แต่ทุกวันนี้ก็อย่างที่เห็นครับ อิอิ คุ้มค่ามากๆ ครับ ที่สำคัญ ถ้าทุกท่านสังเกตดีๆ พวกนี้รับค่าเหนื่อยถูกมากครับ หากเทียบกับความสามารถ ซึ่งนี่แหละครับ เป็นส่วนหนึ่งของข้อแตกต่าง การซื้อนักเตะขั้นเทพมาในทีมกับการปั้นนักเตะของเราเองให้เทพ
สุดท้ายนี้ผมขอจบเซฟดาร์บี้ของผมไว้เพียงเท่านี้นะครับ เนื่องจากผมกำลังมีโปรเจคใหม่การคุมทีม ส่วนเซฟนี้หากท่านใดสงสัยอะไรตรงไหน คอมเม้นไว้เลยครับมาถามผมได้เลย เดี๋ยวผมจะมาตอบให้นะครับ ส่วนตอนต่อไป ผมจะไปคุมทีมอะไรนั้น ขอให้ทุกท่านติดตามไว้ดีเลยครับ รับรองว่าเซฟต่อไปรวมไปถึงเป้าหมายในเซฟ อาจจะทำให้ทุกท่านตกใจได้ 5555555 ฝากไว้ด้วยครับ
เซฟนี้ผมตั้งเป้าหมายไว้เพียงแค่ 5-6 ข้อครับ
1.พาดาร์บี้เป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงระดับโลก
2.พาดาร์บี้เป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลก
3.พาดาร์บี้ครองเกาะอังกฤษ
4.ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้จัดทีมที่มีชื่อเสียงระดับโลก
5.ทำให้ตัวเองไปอยู่ในฮอลออฟเฟรมเป็นอันดับ 1 ของโลก
6.มีนักเตะเยาวชนที่ปั้นขึ้นมา เล่นกับทีมชุดใหญ่
ซึ่งเป้าหมายทุกข้อผมได้บรรลุหมดแล้ว จึงหมดความท้าทายกับการเล่นเซฟไปนี้ครับ เวลาในคือช่วงที่บรรลุเป้าหมายคือช่วงเปิดฤดูกาล 2019/2020 หมายความว่าผมใช้เวลาทั้งสิ้น 12 ฤดูกาล จึงบรรลุเป้าหมายหมดที่วางเอาไว้ครับ
มาที่เป้าหมายแรกครับ ผมทำสำเร็จเรียบร้อยคือดาร์บี้กลายเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วโลก สนามฟุตบอลของทีมได้รับการขยายเพื่อรองรับแฟนบอลที่เพิ่มมากขึ้น จากเดิมแค่ 30000 กว่าๆ ในปัจจุบัน ณ ปี 2019 สนามของทีมรองรับความจุได้ถึง 63053 ที่นั่ง มีอุปกรณ์การฝึกดีเยี่ยมและอุปกรณ์การฝึกด้านเยาวชนดีที่สุด
เป้าหมายที่สองผมทำให้ดาร์บี้กลายเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลกได้สำเร็จ ซึ่งมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1600 ล้าน รายได้หลักๆมาจากการคว้าถ้วยแชมป์ทุกปี และ มาจากการปั้นนักเตะขายซึ่งทำกำไรให้กับสโมสรมากมาย จนรวยที่สุดในโลก ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างอาร์เซน่อลแบบไม่เห็นฝุ่น
เป้าหมายที่สามผมพาดาร์บี้ครองเกาะอังกฤษด้วยการพาทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่างพรีเมียร์ลีกติดต่อกันถึง 7 สมัย กวาดแชมป์บอลถ้วยภายในประเทศติดกัน 3 สมัย รวมถึงคว้าทุกแชมป์ในประเทศติดกัน 4 แชมป์ 2 ปีติดต่อกัน โดยมีคู่รักคู่แค้นอย่างอาร์เซน่อลเป็นคู่แข่งสำคัญ

เป้าหมายที่สี่และห้าจากผลงานที่สุดยอดใช้เวลาเพียง 12 ปี พาดาร์บี้ทีมอ่อนด๋อยแทบไม่มีใครรู้จักขึ้นมาผงาดในระดับโลกคว้าแชมป์มากมาย ทำให้ปัจจุบันผมในวัย 52 ปี กลายเป็นผู้จัดทีมเพียงคนเดียวในเกมส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและกลายเป็นผู้จัดการทีมอันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับฮอลออฟเฟรมผมแซงหน้า เซอร์ อล็ก เฟอร์กูสัน ผู้จัดทีมระดับตำนานของแมนยูได้เรียบร้อยครับ ด้วยผลงานคุมทีม 691นัด ชนะ473นัด เสมอ108นัด แพ้110นัด ยิงได้1821ประตู เสีย870ประตู

และเป้าหมายสุดท้ายครับอันนี้เป็นสไตล์การคุมทีมของผมอยู่แล้วด้วยครับ ชอบเซ็นนักเตะมาถูกๆแล้วขายไปแพงๆ หรือปั้นขึ้นมาจนเป็นตัวหลักสโมสร ในทีมของผมมีเด็กนรกเยอะครับ แต่ผมขอเลือกมา 4 คนละกันครับ ซึ่ง 4 นี้ผมปั้นมาเองกับมือ จนมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นกำลังหลักของสโมสรเรียบร้อยครับ มีแค่ตัวสุดท้ายเพียงตัวเดียวนะครับที่ซื้อจากสเปอร์ ด้วยค่าตัว 3 ล้าน แต่ทุกวันนี้ก็อย่างที่เห็นครับ อิอิ คุ้มค่ามากๆ ครับ ที่สำคัญ ถ้าทุกท่านสังเกตดีๆ พวกนี้รับค่าเหนื่อยถูกมากครับ หากเทียบกับความสามารถ ซึ่งนี่แหละครับ เป็นส่วนหนึ่งของข้อแตกต่าง การซื้อนักเตะขั้นเทพมาในทีมกับการปั้นนักเตะของเราเองให้เทพ
สุดท้ายนี้ผมขอจบเซฟดาร์บี้ของผมไว้เพียงเท่านี้นะครับ เนื่องจากผมกำลังมีโปรเจคใหม่การคุมทีม ส่วนเซฟนี้หากท่านใดสงสัยอะไรตรงไหน คอมเม้นไว้เลยครับมาถามผมได้เลย เดี๋ยวผมจะมาตอบให้นะครับ ส่วนตอนต่อไป ผมจะไปคุมทีมอะไรนั้น ขอให้ทุกท่านติดตามไว้ดีเลยครับ รับรองว่าเซฟต่อไปรวมไปถึงเป้าหมายในเซฟ อาจจะทำให้ทุกท่านตกใจได้ 5555555 ฝากไว้ด้วยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น